วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความเป็นมา

  
        พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) หรืออีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) เริ่มขึ้นเมื่อประมาณต้นทศวรรษที่ 1970 โดยเริ่มจากการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงาย และในช่วงเริ่มต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น บริษัทเล็กๆ มีจำนวนไม่มากนัก ต่อมาเมื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange - EDI) ได้แพร่หลายขึ้น ประกอบกับคอมพิวเตอร์พีซีได้มีการขยายเพิ่มอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ตและเว็บ ทำให้หน่วยงานและบุคคลต่าง ๆ ได้ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นในปัจจุบันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ครอบคลุมธุรกรรมหลายประเภท เช่น การโฆษณา การซื้อขายสินค้า การซื้อหุ้น การทำงาน การประมูล และการให้บริการลูกค้า


ความหมาย (E-Commerce)

          พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต


กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

        กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
•  แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
•  ปัจจัยทางการบริหาร
•  โครงสร้างพื้นฐาน


ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

        สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
•  สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
•  สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)


พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ

•  ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
•  ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C)
•  ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
•  ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)

การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to B
  
        โมเดลของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to B มีหลายแบบ ที่สำคัญได้แก่ Seller oriented marketplace, และ Intermedialy-Oriented marketplace (Turban et al., 2000)
•  Seller oriented marketplace
ตามโมเดลนี้องค์การจะพยายามขายสินค้า/บริการของตนให้แก่องค์การอื่นผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
•  Buyer-Oriented Marketplace
โมเดลนี้มีจุดมุ่งหมายในการลดต้นทุนของสินค้าที่จะซื้อ หรือในตลาดที่มีการประมูลจากนั้นธุรกิจก็จะเสนอประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยผ่านไปยังเครือข่ายอินทราเน็ตของผู้ซื้อประกาศผู้ที่สามารถประมูลไปได้
•  Intermedialy-Oriented marketplace
โมเดลนี้เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยทำหน้าที่ในการสร้างตลาดขึ้นมา

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to C
  
        แอพพลิเคชั่นของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แบบ B to C
•  ร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Retailing)
•  การโฆษณา
•  แคตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic catalog)
•  ธนาคารไซเบอร์ (Cyberbanking) หรือ Electronic banking หรือ Virtual bangking
•  ตลาดแรงงานออนไลน์ (Online job market)
•  การท่องเที่ยว
•  อสังหาริมทรัพย์
•  การประมูล (Auctions)


ขั้นตอนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต

        ขั้นตอนของการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตแบบ B to B มี 5 ขั้นตอน คือ
•  การค้นหาข้อมูล
•  การเลือกและการต่อรอง
•  การซื้อสินค้า/บริการทางอินเทอร์เน็ต
•  การจัดส่งสินค้า/บริการ
•  การบริการหลังการขาย


พฤติกรรมของลูกค้า

        การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีลูกค้าอยู่ 2 ประเภท คือ
•  ตัวบุคคล
•  องค์การ


การวิจัยทางการตลาด

        การวิจัยทางการตลาดที่ต้องการหาแรงจูงในที่ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้า/บริการบนอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญมากขึ้นโมเดลในการทำวิจัยเพื่ออธิบายพฤติกรรมของลูกค้า

โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิค (Technical Infrastructure)
        การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์จำนวนมาก องค์ประกอบที่สำคัญ คือ เครือข่าย เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web server) การสนับสนุนเว็บเซิร์ฟเวอร์ และซอฟท์แวร์ที่ใช้ทำธุรกรรม และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต


ระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์

•  เช็คอิเล็กทรอนิกส์ (E-checks)
•  เครดิตการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic credit cards)
•  การจ่ายเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic cash หรือ Digital cash หรือ e-money)
•  การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer-EFT)


การสนับสนุนการบริการอื่น ๆ ให้ลูกค้า

        มีเครื่องมือหลายประเภทที่ให้บริการลูกค้าออนไลน์ได้ เช่น
•  เว็บเพจส่วนตัว (Personalized web Page)
•  ห้องสนทนา (Chat rooms)
•  อีเมล์ (E-mail)
•  FAQs (Frequent Answers and Questions)
•  ความสามารถในการติดตามงาน (Tracking Capabilities)
•  ศูนย์โทรศัพท์โดยใช้เว็บ (Web-based call centers)

การรักษาความปลอดภัย

        ความต้องการการรักษาความปลอดภัย (security requirements)
•  ความสามารถในการระบุตัวตนได้ (Anthentication)
•  ความเป็นหนึ่งเดียวของข้อมูล (Integriry)
•  ความไม่สามารถปฏิเสธได้ (Non-repudiation)
•  สิทธิส่วนบุคคล (Privacy)
  •  ความปลอดภัย (Safety)

  • วิธีการรักษาความปลอดภัย
    •  การใช้รหัส (Encryption)
    •  ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
    •  โปรโตคอล (Protocols)

    ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
            ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีทั้งในระดับบุคคล องค์การ สังคม และระบบเศรษฐกิจ
    •  ประโยชน์ต่อบุคคล
    •  ประโยชน์ต่อองค์การ/ธุรกิจ
    •  ประโยชน์ต่อสังคม
    •  ประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ


    ข้อจำกัดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส

    •  ข้อจำกัดด้านเทคนิค
    •  ข้อจำกัดด้านกฎหมาย
    •  ข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจ
    •  ข้อจำกัดด้านอื่น ๆ

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น